ย้อนอดีต ตามหา...แม่ของลูก
ตอนที่ 36 ลูกสาวเจ้าพ่อ
เดี๋ยวนะ! แคทชวนผมไปบ้าน!.......
 
นี่มัน.....เรื่องอะไรกันนี่!
 
แม้ผมจะพยายามถามเธอว่าเรื่องอะไร แต่เธอก็ไม่ยอมตอบ บอกว่าเดี๋ยวไปแล้วก็จะรู้เองขอเวลาผมแค่วันเดียว ทำให้ผมเริ่มสงสัยแต่ก็ตอบรับคำไป
 
“คงจะไม่มีอะไรหรอกน่า” ผมคิดในใจและเตรียมตัวไปบ้านของเธอในวันถัดไป
 
รุ่งขึ้นแคทก็ขับรถมารับผมที่บ้าน บ้านเธออยู่แถว ๆ บางนาตราดที่ถือว่าไกลจากบ้านของผมมาก แม้เธอจะขับขึ้นทางด่วนเพื่อย่นระยะ แต่สำหรับผมก็ยังรู้สึกว่าไกลอยู่ดี
 
“ขึ้นทางด่วนไปก็ไม่ถึงชั่วโมง ถือว่าใกล้นะคะ” แคทบอกผมขณะที่เหยียบคันเร่งซิ่งแซงรถคันอื่นไปเรื่อย ๆ ทำเอาผมตกใจและหวาดเสียวตลอดทาง
 
นี่เธอเป็นขาซิ่งหรือนี่ ผมนึกในใจและสวดมนต์ตลอดทาง
 
จนเมื่อลงจากทางด่วนและขับมาอีกไม่นานเราก็ถึงที่แปลงหนึ่ง ที่มีเนื้อที่เกือบร้อยไร่อยู่ติดถนนในซอยใหญ่ ด้านข้างของที่ดินมีกำแพงรั้วสีขาวน่าจะเป็นวัดหรือไม่ก็หน่วยงานราชการเพราะเป็นแนวยาวมาก ที่แปลงนี้มีการปรับพื้นที่และขุดคลองเรียบร้อย แม้จะยังไม่มีต้นไม้แต่ก็ถือว่าเป็นที่สวยใช้ได้
 
“นี่คือที่ดินของที่บ้านค่ะ แคททำการปรับพื้นที่เรียบร้อยกำลังจะเริ่มปลูกพืชต่าง ๆ อาทิตย์หน้าเพื่อทำฟาร์มตามที่แคทตั้งใจ” แคทบอกผมและกางแปลนฟาร์มที่ออกแบบไว้ให้ดู ถือว่าเป็นฟาร์มที่ครบวงจรมากและน่าจะใช้เงินลงทุนหลายสิบล้าน
 
“แบบก็มีหมดแล้ว คุณแคทอยากให้ผมช่วยอะไรครับ แล้วไหนบอกว่าจะพามาบ้าน?” ผมเริ่มสงสัยจึงถามเธอ
 
“บ้านแคทก็อยู่ติดกับที่แปลงนี้แหละค่ะ นั่นไงคะ” แคทชี้ไปที่แนวกำแพงสีขาวที่ยาวสุดลูกหูลูกตาที่ผมเห็นก่อนหน้า ที่ด้านในมีคฤหาสน์หลังใหญ่อลังการตั้งอยู่
 
บร๊ะเจ้า! กำแพงบ้านหรือนี่ นึกว่ากำแพงวัด
 
นี่..นี่เธอเป็นลูกเศรษฐีหรือนี่!
 
ผมตกใจจนอ้าปากค้าง เคยเห็นคนรวยระดับนี้แต่ในหนัง พอมาเจอตัวจริงทำเอาผมอึ้งและพูดไม่ออกเลยจริงๆ
 
“เอ่อ! คุณแคทเรียกกระผมมาที่นี่ มีอะไรให้กระผมรับใช้หรือขอรับ” ผมเปลี่ยนสรรพนามใหม่ให้ดูเหมาะสมกับฐานะของเธอ
 
“โถ่! คุณธีย์ เรียกแคทเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ แล้วก็พูดจาเหมือนเดิมด้วยไม่งั้นแคทโกรธจริงๆนะ” แคทตอบผมกลับ
 
“ดะ..ได้ครับ ผมก็ล้อเล่นไปอย่างนั้นเอง แหะ ๆ ” ผมหัวเราะแห้งๆ และกลับมาทำตัวตามเดิม
 
“นั่นบ้านของพ่อแคทค่ะ ไม่ใช่ของแคท ส่วนจะให้มาช่วยทำอะไรนั้นเดี๋ยวคุณธีย์ก็จะรู้ค่ะ นั่นไง! มากันพอดีเลย” แคทพูดแล้วก็ชี้ไปที่ด้านหลังของผม ที่มีรถยุโรปหรูสีดำสามคันขับมาถึงพอดีและกำลังจอด
 
เมื่อประตูรถเปิดออก ก็มีชายหนุ่มในชุดสูทสีดำจากรถคันแรกและคันสุดท้าย รีบวิ่งกรูกันออกมาเปิดประตูให้รถคันกลาง เหมือนบอดี้การ์ดเปิดประตูให้เจ้านายแบบในหนัง และเมื่อประตูรถเปิดออกก็มีชายสองคนลงจากประตูรถคนละด้าน
 
คนแรกเป็นหนุ่มใหญ่วัยดึก รูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตลายหรู ใส่ทองเส้นใหญ่ หวีผมเรียบแปล้พร้อมสวมแว่นตาสีดำ ริมฝีปากมีหนวดที่ตกแต่งและดูแลอย่างดี มาดเหมือนเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
 
อีกคนเป็นชายหนุ่มสูงโปร่ง แต่งตัวดูสำอาง เนี๊ยบ จากแบรนด์ต่างประเทศทั้งตัว สไตล์บูติค ย้อมผมสีทองและใส่แว่นตาดำเช่นกัน
 
เมื่อทั้งสองเห็นผมและแคท ชายหนุ่มผมทองก็รีบวิ่งเข้ามาทักทายแคท
 
“แคท ยูหายไปไหนมา ช่วงนี้ไอมาหายูก็ไม่เคยเจอเลยไอคิดถึงยูม๊ากมาก ยู.......” ชายหนุ่มผมทองพูดไทยคำอังกฤษคำแบบน้ำไหลไฟดับ ก่อนที่เขาจะพูดมากไปกว่านี้
 
แคทก็ยกมือห้าม แล้วพูดว่า
 
“หยุดก่อน มาร์ค! ยูอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ ขอไอคุยธุระกับแด๊ดดี้ก่อน” แคทพูดขึ้นแล้วจูงมือผมเดินออกมาหาหนุ่มใหญ่มาดเจ้าพ่อที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มผมทอง
 
“แด๊ดดี้มาช้านะคะ!” แคทพูดขึ้นพร้อมแนะนำผมให้หนุ่มใหญ่เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้รู้จัก
 
“ธีย์คะ นี่แด๊ดดี้ พ่อของแคทเองค่ะ” แคทแนะนำชายหนุ่มเบื้องหน้าว่าที่คือพ่อของเธอ
 
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้แบบงง ๆ และตกใจที่พ่อของแคทดูเหมือนมาเฟียขนาดนี้
 
“อึมม! ” พ่อของแคทตอบรับไหว้ผมด้วยประโยคเดียว พร้อมพยักหน้า พร้อมมองหน้าผมเหมือนกำลังสอบสวน
 
“โอ้วโนว! แคททำไมยูถึงจับมือถือแขนของลุงคนนี้ล่ะ ขนาดไอเป็นคู่หมั้นของยู ไอยังไม่เคยได้จับมือของยูเลย” ชายหนุ่มผมทองโวยวายเมื่อเห็นแคทจูงมิอของผมไปแนะนำกับพ่อของเธอ
 
ลุงบ้านพ่องงง!แกสิ หล่อขนาดนี้
 
ผมนึกเคืองในใจเมื่อได้ยินชายหนุ่มเรียกว่าลุง
 
“มาร์ค เรื่องหมั้นเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันตั้งแต่ไอยังอยู่ในท้องของหม่ามี๊ ไอไม่ยอมรับและก็ไม่เคยยอมรับยูเป็นคู่หมั้น อย่าคิดว่าเป็นลูกเพื่อนของแด๊ดดี้แล้ว ยูจะมาพูดอะไรแบบนี้กับไอได้” แคทต่อว่าชายหนุ่มผมทองที่ชื่อมาร์ค
 
สองคนนี้เป็นคู่หมั้นกันหรือนี่! ผมรู้สึกตกใจเมื่อได้ยิน
 
ดีนะ...ที่ผมไม่แสดงอะไรออกไปว่าเริ่มชอบแคท ไม่อย่างนั้น คนเหล่านี้คงหาว่าผมไม่เจียม
 
เฮ้อ! รอดตัวไป
 
ขณะที่ชายหนุ่มทำหน้าจ๋อย ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างก็ก็ส่งโทรศัพท์มาให้พ่อของแคท
 
“บอสครับ คนของเราบนเรือบอกว่าเป้าหมายต่อสู้ครับ”
 
พ่อของแคทขยับมือรับโทรศัพท์มือถือมาพูดสาย แต่สายตายังคงจ้องมองที่ตัวของผม จนผมขนลุกเกรียว
 
“ถ้าขัดขืนก็ทุบ แล้วโยนลงทะเลไป เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมถึงจัดการเองไม่ได้ ในสามนาทีนี้ถ้าจัดการไม่เรียบร้อย พวกแกจะได้ไปอยู่ในทะเลเป็นเพื่อนมัน” พ่อของแคทพูดจบก็ส่งโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มชุดดำคนเดิม ที่รับโทรศัพท์กลับอย่างนอบน้อม
 
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะแด๊ดดี้?” แคทถามขึ้นถึงเหตุการณ์ในโทรศัพท์
 
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่แด๊ดดี้ส่งคนไปปล่อยปลาในทะเลเท่านั้นเอง ” พ่อของแคทตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขัดที่ขัดกับภาพลักษณ์มากๆ
 
“โห! แด๊ดดี้เป็นคนใจบุญมาก ๆ แคทรักแด๊ดดี้ที่สุดเลย” แคทเข้าไปกอดพ่อของเธออย่างมีความสุข
 
ในขณะที่ผมยืนนิ่งและกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก!
 
ทำไมคำพูดในโทรศัพท์มันไม่เหมือนปล่อยปลา แต่เหมือนฆ่าคนแล้วเอาไปปล่อยทิ้งกลางทะเลเหมือนในหนังล่ะ
 
ผมเริ่มคิดต่าง ๆ นานามากขึ้นแต่ก็ต้องหยุด เมื่อเห็นว่าพ่อของแคทยังมองมาที่ผมอย่างไม่วางตา ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์ของผมอาจจะเป็นแบบปลาตัวเมื่อครู่และเตรียมปลีกตัวออกโดยทำเป็นขอกลับบ้าน
 
ท่าทางคุณพ่อน่าจะหวงลูกสาวมาก
 
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากพูดขอตัวกลับ แคทก็มายืนข้างๆผมและแนะนำตัวผมอีกครั้ง
 
“แด๊ดดี้คะ นี่คือคุณธีย์ที่จะมาช่วยแคทดูเรื่องงานเกษตรในฟาร์มของเรา นอกจากคุณธีย์เป็นนักเกษตรที่เก่งแล้ว....”
 
“คุณธีย์ยังเป็นแฟนของแคทด้วยค่ะ” แคทพูดจบก็กอดแขนข้างซ้ายของผมเหมือนเราเป็นคู่รักกัน
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอและการแสดงออก ผมก็ยืนตัวแข็งทื่อเพราะหัวใจย้ายไปอยู่ที่ตาตุ่ม พร้อมกับรู้สึกว่าออร่ามุ่งร้ายของผู้ชายทั้งหมดโดยเฉพาะพ่อของแคทและชายหนุ่มผมทอง พุ่งมาที่ตัวผมราวกับเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน
           
            ใจเย็นนะ! ผมยังไม่อยากเป็นปลา
 
           ลาก่อน! ชีวิตน้อยๆของผม
 
....................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 37 คำขอร้อง