ย้อนอดีต ตามหา...แม่ของลูก
ตอนที่ 24 ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม
หลังจากคุณหมอพูดจบ ก็ทำหน้าเศร้าพร้อมหันหลังเพื่อจะเดินออกไปเพื่อดูคนไข้รายอื่น
 
ทันใดนั้นเอง!
 
เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น
 
ติ๊ด! ติ๊ด!
 
“คุณหมอคะ! สัญญาณชีพจรของคนไข้กลับมาแล้ว คนไข้หัวใจเต้นแล้วค่ะ!” เสียงพยาบาลที่อยู่ใกล้ตะโกนขึ้น
 
ข้อความที่ได้ยินก็ทำเอาเหล่าทีมแพทย์ทั้งหมดดีใจ ที่สามารถช่วยชีวิตคนไข้เอาไว้ได้ หลังจากที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจมานาน
 
“ลุงธีย์! รอดแล้วนะครับ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจของลุงที่จะฟื้นขึ้นมาแล้วนะ” คุณหมอหนุ่มคนเดิม หันมามองที่ร่างของผมด้วยความดีใจและพูดกับผม
 
...................
 
ขณะที่ภายในร่างกายของผม หลังจากที่หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง
 
ตอนนี้...ทุกอย่างก็ดูสว่างไสว
 
ไม่นานเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
 
“พ่อ! พ่อเป็นอย่างไรบ้าง?” น้องมีนตะโกนเรียกและเขย่าตัวผม ที่นอนฟุบอยู่ข้างๆหัวใจของตัวเอง หลังจากที่พยายามกระแทกหัวใจของตัวเองให้กลับมาเต้นอีกครั้ง
 
“ไม่เป็นไรครับ พ่อทำสำเร็จไหม?” ผมค่อยๆพยุงตัวมานั่งแล้วกอดน้องมีนที่กำลังร้องไห้
 
“สำเร็จค่ะพ่อ หนู...หนูคิดว่าพ่อจะเป็นอะไรไปซะอีก ฮือๆ” น้องมีนยิ้มขณะที่กำลังร้องไห้ ดูเธอเป็นห่วงผมจริงๆ ทำให้ผมดีใจที่ทำอะไรสำเร็จกับคนอื่นเค้าบ้าง
 
หลังจากเราพูดคุยถึงสถานการณ์ตอนนี้จบ น้องมีนก็ใช้พลังของเธอรักษาร่างวิญญาณของผมที่สะบักสะบอมจากการถูกไฟฟ้าช๊อตจนรู้สึกดีขึ้น ก่อนพาพวกเราออกมาที่ภายนอกอีกครั้ง
 
เมื่อออกมายืนอยู่ข้างเตียงที่มีร่างของผมนอนอยู่เช่นเดิม เหมือนไม่ได้รับรู้วิกฤติที่เกิดขึ้น
 
ผมมองไปร่างนั้นแล้วคิดในใจว่า คนเรานี่ก็แปลก
 
เมื่อไม่นานมานี้ตอนเป็นเจ้าชายนิทรา ผมยังอยากตายอยู่เลย เพื่อจะได้พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่
 
และไม่กี่อึดใจที่ผ่านมาผมกลับอยากมีชีวิตอยู่ เพื่อช่วยให้ลูกสาวได้เกิดใหม่ด้วยการกลับไปย้อนอดีต
 
บางทีชีวิตก็อยู่ด้วยเป้าหมายและความหวังจริงๆ
 
ผมยืนมองร่างของตัวเองไม่นาน ก็รู้สึกว่าที่หน้าประตูมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมา จึงหันมองไปทางนั้น
 
ทันใดนั้น! ผมก็เห็นพระภิกษุชรารูปหนึ่ง ยืนอยู่ที่หน้าประตูที่เปิดแง้มอยู่และมองมาเข้ามาในห้อง ราวกับท่านมองเห็นร่างวิญญาณของผมและน้องมีน
 
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม อาตมาตัดกรรมกับโยมเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับกรรมของโยมที่ทำมาแล้วนะ ขอให้โยมโชคดี” พระภิกษุชรารูปนั้นพูดเบาออกมากับผม น่าแปลกที่ผมกลับได้ยินประโยคนั้นชัดเจน ราวกับพูดอยู่ใกล้ๆ
 
“พ่อเป็นอะไร! มองอะไรอยู่เหรอ?” น้องมีนถามผมและมองไปที่หน้าประตูห้องเหมือนกัน
 
“พ่อกำลังมองพระรูปนั้นน่ะลูก เหมือนท่านจะมองเห็นเราและพูดกับพ่อ เอ๊ะ!” ผมตอบน้องมีนและหันกลับไปอีกครั้งก็ต้องตกใจ
 
เพราะตอนนี้ พระภิกษุชรารูปนั้นได้หายไปแล้ว!
 
“ไม่เห็นมีใครเลยพ่อ หนูมองผ่านช่องประตูตั้งนานก็ไม่เห็นเลยนะ!” น้องมีนพูดต่อ
 
แม้ผมจะรู้สึกคุ้นกับใบหน้าของพระภิกษุชรารูปนี้ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน ได้แต่ยืนยกมือไหว้จรดหน้าผาก
 
“สาธุครับหลวงพ่อ ขอบคุณที่ช่วยผมกับลูกครับ” ผมพูดออกมาเบาๆและคิดว่าพระภิกษุชรารูปนี้น่าจะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หัวใจของผมกลับมาเต้นอีกครั้ง
 
น้องมีนมองผมอย่างสงสัยว่าผมทำอะไร เมื่อผมไหว้เสร็จก็หันมาพูดกับเธอ
 
“พ่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์น่ะ ขอบคุณท่านที่ช่วยพวกเรา” ผมยิ้มก่อนเอามือรูปหัวน้องมีน
 
“เราย้อนกลับไปอดีตเลยดีไหม ไม่ต้องเข้าไปในความทรงจำพ่อแล้ว เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบที่ผ่านมาอีก” ผมถามน้องมีน
 
“ไม่ค่ะพ่อ! หนูรู้สึกได้ว่าตอนนี้น่าจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว พ่อต้องกลับไปย้อนความทรงจำอีกสองคนก่อนเราถึงจะไปย้อนอดีตกันเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตกัน” น้องมีนตอบผม
 
“ทำไมถึงอยากให้พ่อกลับไปย้อนความทรงจำอีกล่ะ สามคนก็พอแล้วมั้ง?” ผมถามน้องมีน
 
“ก็หนูมีโอกาสแค่ครั้งเดียวที่จะได้เกิด หากพ่อเลือกผิดหนูก็ไม่ได้เกิดพอดี ที่สำคัญทุกครั้งที่พ่อย้อมความทรงจำ หนูรู้สึกว่าพอพ่อมองตัวเองในอดีต พ่อก็เหมือนจะรู้ว่าที่ผ่านมาทำอะไรผิดพลาดไว้บ้าง” น้องมีนอธิบาย
 
ผมฟังสิ่งที่น้องมีนพูดก็เห็นด้วย ทุกครั้งที่เรามองย้อนกลับไปในอดีตหากเราไม่เข้าข้างตัวเองและมองด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็จะทำให้เรารู้ถึงข้อผิดพลาดของตัวเองได้
 
ยิ่งการมองในฐานะบุคคลที่สามแบบผม ที่มองเห็นตัวเองอย่างเด่นชัด ก็ยิ่งทำให้ผมคิดอะไรได้หลายๆอย่างและเลิกโทษโชคชะตาของตัวเองและคนอื่นๆ รอบข้าง
 
ผมนึกถึงช่วงเวลาของความรักครั้งต่อไปทันที โดยพยายามข้ามช่วงที่ชีวิตเหลวแหลกช่วงนั้นไปเพราะหลังจากน้ำหวานบอกเลิกผม
 
ผมก็กลายเป็นคนติดเหล้า ไม่ทำงานทำการเสียหลายปี จนครอบครัวต่างก็จนใจไม่รู้จะดึงผมกลับมาได้อย่างไร
 
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ผมป่วยมากเพราะเอาแต่ดื่มเหล้า จนต้องเข้าโรงพยาบาลและได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นความรักครั้งที่สี่ของผม
 
“น้องมีนครับ ย้อนกลับไปในช่วงตอนที่พ่ออายุสามสิบห้าปีนะครับ ตอนนั้นเปป็นช่วงที่พ่อนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลและได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง” ผมบอกน้องมีนที่กำลังรอคำตอบอยู่
 
“ได้เลยค่ะพ่อ งั้นเราไปช่วงนั้นกันเลย!” น้องมีนตอบกลับแล้วพาผมย้อนความทรงจำกลับมาในช่วงนั้น
 
ในช่วงที่ผมอายุสามสิบห้าปี ตอนนั้นประเทศไทยกำลังเฟื่องฟูด้วยเศรษฐกิจก่อนจะมีการรัฐประหารเกิดขึ้นและเข้าสู่วังวนนี้จนถึงปัจจุบัน
 
ผมเข้าโรงพยาบาลตอนต้นปีเพราะปวดท้องมากจากการดื่มเหล้าอย่างหนัก พ่อของผมโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้
 
และที่นี่เองที่ทำให้ผมรู้จักกับ “ว่าน”
 
หญิงสาวอีกคนที่เข้ามาในชีวิตของผม
 
......................................................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 25 รักครั้งใหม่