ย้อนอดีต ตามหา...แม่ของลูก
ตอนที่ 25 รักครั้งใหม่
ผมเข้ารับการผ่าตัดอาการตับแข็งและพักอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เกือบเดือน พร้อมเข้ารับการบำบัด
 
ที่นี่ทำให้ผมได้พบกับ “ว่าน” พยาบาลที่คอยมาดูแลผมเป็นประจำ
 
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?” เสียงของว่านที่ทักทายผมเป็นประจำดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มที่ใจดีเหมือนนางฟ้าของผู้ป่วยจริงๆ
 
“ว่าน” เป็นคนกรุงเทพ เธออายุสามสิบสองเป็นพยาบาลมาตั้งแต่เรียนจบ เพราะเรียนสายนี้มาโดยตรง เธอเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดีกับทุกคน แม้ไม่ใช่คนที่สวยมาก แต่ก็ดูน่ารักและมีเสน่ห์ด้วยรอยยิ้ม
 
“วันนี้ก็ดีขึ้นครับ เจ็บแผลน้อยลง” ผมตอบเธอและยิ้มตอบ
 
“ดื่มเยอะจนต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ ถ้าเลิกได้ก็ดีนะคะ” เธอพูดหยอกผมเพราะเราเริ่มคุ้นเคยกันจากการที่เจอกันบ่อย
 
“ก็อยากเลิกเหมือนกันครับ อยากกลับไปทำเกษตรเหมือนเดิม” ผมตอบเธอขณะที่ทำลังวัดความดันให้ผม
 
“เป็นนักเกษตรด้วยหรือคะหรือที่บ้านทำเกษตร? ”เธอถามผมเหมือนสนใจเรื่องเกษตร
 
จากนั้นเราสองคนก็คุยกันมากขึ้นจนสนิทกัน เพราะ “ว่าน” สนใจในพืชสมุนไพรและอยากปลูกในที่ดินแปลงเล็กๆของเธอ
 
จากนั้นทุกครั้งที่เข้ามาดูแลผม เราก็คุยกันหลายเรื่องมากขึ้นแม้แต่เรื่องของความรัก
 
ผมเล่าเรื่องสาเหตุที่เป็นคนติดเหล้าให้เธอฟังว่ามาจากการผิดหวังเรื่องความรัก ซึ่งเธอรับฟังและเป็นคนแนะนำให้ผมเข้ารับการบำบัดผู้ติดสุรา
 
“การติดสุราบางทีก็มาจากจิตใจด้วยนะคะ ถ้าอยากเลิกจริงๆ เดี๋ยวว่านติดต่อศูนย์บำบัดให้ ธีย์ต้องกลับมาทำเกษตรเหมือนเดิมได้แน่นอน” เสียงใสๆและรอยยิ้มของเธอทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้เริ่มน่าอยู่ขึ้นมากกว่าเดิม
 
หลังจากพักรักษาตัวจนดีขึ้น ผมก็เข้ารับการบำบัดโดยเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาลแห่งเดิม
 
ว่านแวะมาคุยกับผมทุกวันด้วยความเป็นห่วง ในช่วงที่ผมพักฟื้นและทำการบำบัด เธอเตือนผมเรื่องการดูแลตัวเองและแนะนำวิธีที่จะช่วยให้ไม่กลับไปดื่มในช่วงเริ่มต้นเพิ่มเติม
 
ตั้งแต่น้ำหวานบอกเลิกผม ว่านก็กลายเป็นผู้หญิงที่ผมคุยด้วยมากที่สุด
 
ในศูนย์บำบัดจะมีนักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาและวางแผนการบำบัดของแต่ละคน เพราะอาการจะไม่เหมือนกัน นอกจากจะมีการดีทอกซ์ล้างพิษสุราแล้วก็ยังมีการบำบัดทางจิตใจอีกด้วย
 
หนึ่งในข้อความที่เจ้าหน้าที่ในศูนย์พูดกับผมก็คือ การจะเลิกดื่มได้อย่างเด็ดขาด สิ่งที่สำคัญข้อหนึ่งก็คือการหาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง
 
เมื่อได้ยินคำนี้ ผมเริ่มกลับมาคิดและถามตัวเองว่า
 
ตอนนี้แรงบันดาลใจของผมคืออะไร?
 
ที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เรียนจบก็ทำงานเป็นนักเกษตรและไม่เคยตั้งเป้าหมายใดๆเลย
 
นอกจากการแต่งงานกับน้ำหวาน
 
ที่สุดท้าย...ก็เป็นเพียงแค่ความฝัน
 
จนวันรุ่งขึ้น ที่ว่านมาวัดความดันและดูแลผมเป็นประจำ ผมจึงปรึกษาเรื่องนี้กับเธอ
 
“คนส่วนใหญ่ก็มักจะหาเป้าหมายในชีวิต ธีย์อาจจะต้องดูว่าตอนนี้นอกจากลับมาเป็นคนเดิมเพื่อให้ครอบครัวภูมิใจแล้ว ธีย์อยากจะทำอะไรเพื่อตัวเองหรือคนอื่นบ้าง” ว่านตอบผมและยิ้มให้ผมเช่นเคย
 
น่าแปลกว่าคำอธิบายของเธอไม่ได้ต่างจากนักจิตวิทยานัก แต่กลับทำให้ผมคิดได้
 
บางทีคำบางคำ ก็อาจจะอยู่ที่คนพูด เพราะบางคนพูดแล้วเรากลับรู้สึกได้ถึงพลังของคำพูดนั้นได้มากกว่า
 
ในตอนนั้นผมจึงมีแรงบันดาลใจว่า อยากใช้ความรู้ทางการเกษตรที่มีนอกจากจะไว้สำหรับหาเลี้ยงตัวเองแล้ว ก็อยากใช้ความรู้นี้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
 
โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ คือช่วยปลูกสมุนไพรในที่ดินแปลงเล็กๆของว่านก่อน
 
และเมื่อตั้งเป้าหมายได้ การบำบัดของผมก็ค่อยๆดีขึ้น
 
จนกระทั่งผมสามารถเลิกดื่มได้โดยเด็ดขาดไม่มีผลข้างเคียงอะไร       
 
 วันที่ผมออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับบ้าน รอยยิ้มและน้ำตาแห่งความดีใจของพ่อ แม่และน้องสาวของผม ทำเอาผมพูดอะไรไม่ออก
 
มันเป็นวันแห่งความสุขที่ครอบครัวของผมรอมานาน ที่ได้ลูกชายคนเดิมกลับมา
 
“ผมขอโทษ...!” ผมพูดออกแค่ประโยคเดียว ก่อนร้องไห้และกอดครอบครัวของผมในวันนั้น
 
ตั้งแต่นั้นมา...ชีวิตใหม่ของผมก็เริ่มต้นขึ้น
 
ผมเริ่มออกกำลังกายและช่วยดูแลสวนของที่บ้าน เพื่อให้พ่อกับแม่ได้พักบ้าง ขณะเดียวกันก็เตรียมงานเพื่อไปช่วยว่านปลูกพืชสมุนไพรในที่ดินของเธอ
 
“ว่านอยากปลูก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ฟ้าทะลายโจร ขมิ้น ประมาณนี้แหละ” ว่านบอกผมทางโทรศัพท์ หลังจากที่ผมกลับมาอยู่บ้านเราสองคนก็ยังติดต่อกันอยู่
 
“งั้นวันอาทิตย์นี้ธีย์ไปดูที่สำหรับปลูกพืชสมุนไพรนะ จะได้ช่วยวางถูกว่าจะปลูกแบบไหน” ผมตอบเธอพร้อมนัดวันสำหรับดูพื้นที่
 
บ้านของว่านเป็นบ้านไม้สองชั้น มีเนื้อที่ประมาณหนึ่งไร่ อยู่แถวชานเมือง รอบๆบ้านเป็นสวนผักของคนอื่นๆ แต่เดินทางไม่ยาก
 
“เป็นไง หาบ้านยากไหม?” ว่านถามผมตอนเปิดประตูให้เข้ามา
 
“หาไม่ยากหรอก เข้ามาจากปากซอยนิดเดียวเอง บ้านน่าอยู่นะ” ผมตอบว่าน แล้วมองดูรอบบ้านที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย
 
“ดื่มน้ำก่อน เดี๋ยวพาไปดูรอบๆนะ” ว่านส่งแก้วน้ำให้ผม
 
เราสองคนนั่งคุยกันถึงความต้องการของเธอ จนได้รู้ว่าเธออยากปลูกสมุนไพรเพื่อเอามาแปรรูปทำเป็นสินค้าแบบโฮมเมด
 
“ว่านชอบใช้ของที่เป็นสมุนไพรน่ะ สมุนไพรของไทยมีประโยชน์ดีๆทั้งนั้น เลยอยากทำมาใช้แล้วลองขายดูก่อน” ว่านพูดขณะพาผมเดินดูรอบๆบ้าน
 
โดยปกติหากจะเริ่มปลูกพืชเพื่อทำเกษตร สิ่งสำคัญก็คือต้องตรวจค่าดินก่อนว่ามีธาตุอะไรและมีความเป็นกรดเป็นด่างมากน้อยแค่ไหน
 
แต่จากสายตาของผมที่มองดินของที่นี่ ก็สามารถบอกได้เบื้องต้นว่าเป็นดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุในระดับดีเพราะมีสีเข้ม เนื่องจากผ่านการทับถมของใบไม้จากต้นไม้รอบๆบ้านมานาน
 
ส่วนอีกข้อหนึ่งที่สำคัญของคนที่จะปลูกพืชก็คือแหล่งน้ำ ไม่ว่าคุณจะปลูกอะไรก็แล้วแต่การใช้น้ำประปารดน้ำอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะค่าน้ำที่สูงนั่นเอง
 
โชคดีที่บ้านของว่าน มีคลองเล็กๆอยู่หลังบ้าน ทำให้ปัญหาเรื่องของน้ำหมดไป
 
หลังเดินดูพื้นที่เสร็จ เราก็มานั่งคุยที่ม้านั่งหน้าบ้าน ผมร่างผังสวนสมุนไพรให้ดูว่าแต่ละแปลงจะมีขนาดเท่าไหร่และหน้าตาแบบไหนเพื่อจะได้สะดวกในการดูแล
 
ในขณะที่กำลังคุยอยู่นั้น ก็มีเสียงเปิดประตูรั้วเข้ามา พร้อมร่างของเด็กชายชั้นมัธยมต้นคนหนึ่งเดินถือลูกฟุตบอลเข้ามา
 
“อ้าว! วิทมาพอดีเลย นี่น้าธีย์ สวัสดีน้าเค้าด้วยนะ” ว่านพูดกับเด็กชายที่เพิ่งเดินเข้ามา
 
“ธีย์คะ! นี่วิทลูกชายของว่านเองค่ะ!” ว่านพูดอธิบาย
 
ขณะที่ผมตกใจและนิ่งแข็งเป็นท่อนไม้ชั่วคราว
 
...............................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 26 ความผิดพลาดจากอดีต